Learning City : เมืองแห่งการเรียนรู้ทะเลสาบสงขลา (วิจิตรา อมรวิริยะชัย)

วิจิตรา อมรวิริยะชัย
นักวิชาการศึกษา สํานักงานสถาบันส่งเสริมการบริการวิชาการ-มหาวิทยาลัยทักษิณวิทยาเขตพัทลุง
หัวหน้าโครงการย่อยที่ 2 เมืองแห่งการเรียนรู้ทะเลสาบสงขลา : พื้นที่อ.ปากพะยูน, หลาดใต้ถุน


“เมื่อปี 2566 ได้รับทุน ทีมวิจัยของเราเคยรับทุนวิจัยจาก บพท.ในกรอบ Learning City ตอนนั้นทำงานกับพื้นที่ อ.ปากพะยูน ที่ชุมชนบ้านกลาง เป็นชุมชนที่อยู่กับทะเลสาบสงขลาตอนกลาง เน้นเรื่องการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ทะเลสาบสงขลา เพราะสัตว์น้ำมีจํานวนลดน้อยลง แล้วก็มีชนิดที่ลดน้อยลง แนวทางการทำงานตอนนั้นจึงเป็นการจัดการองค์ความรู้ การศึกษาภูมิปัญญา และกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นการอนุรักษ์และเพิ่มปริมาณปลา เช่น การทำบ้านปลา รวมไปถึงการศึกษาภูมิบ้าน ภูมิเมือง ภูมิปัญญาในพื้นที่ ทำให้เราได้ข้อค้นพบ และองค์ความรู้มากมาย รวมถึงความร่วมมือจากชาวบ้าน


การขับเคลื่อนงานปีนี้จึงเป็นงานสืบเนื่องมาจากปีที่แล้วมีกลุ่มคนชาวบ้านที่ถือว่าเป็นกลไกหลัก เป็นนักการจัดการเมืองตัวจริง ซึ่งก็คือ กลุ่มชาวบ้านชุดคณะกรรมการของหลาดใต้ถุน ที่เราทำงานด้วย และตอบรับแนวคิดที่เราเสนอเข้าไปว่า อยากให้ร่วมกันสร้างหลาดใต้ถุนเป็นพื้นให้เป็นพื้นที่กลางของการเรียนรู้ เป็นที่ที่มอบการเรียนรู้เรื่องปลา เรื่องกุ้งทะเลสาบ เรื่องของอาหาร ขนมโบราณ เช่น กุ้งแนม ขนมปังญวน ขนมมอจี และเรื่องวิถีชีวิตของคนที่นี่ เชื่อมโยงไปกับการสนับสนุนของทางเทศบาล อบจ. และหน่วยงานต่างๆ กลายเป็น เครือข่ายและกลไกในระดับพื้นที่ที่มาช่วยกันการออกแบบเมือง และสร้างเมืองแห่งการเรียนรู้ซึ่งสัมพันธ์กับชีวิตของคนที่นี่และทะเลสาบสงขลาอันนี้ คือ ภาพใหญ่ของระดับพื้นที่

ในภาพย่อย เราให้ความสำคัญกับการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตลาด – หลาดใต้ถุน – ให้เป็นตลาดที่มีเอกลักษณ์ เป็นตลาดสีเขียว การพัฒนาคุณภาพสินค้า เชื่อมกับคุณค่าของพื้นที่ เช่น การเป็นชุมชนที่มีทัศนียภาพสวยงามติดทะเลสาบสงขลา ทะเลสาบสามน้ำ เป็นเส้นทางตามรอยพระพุทธเจ้าหลวงที่รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาส การมีมัสยิดกลางประจําจังหวัดพัทลุง มีวัดที่มีพระองค์พระนอนองค์ใหญ่ มีประเพณีลากพระที่มีการชิงถ้วยพระราชทานของสมเด็จพระเทพฯ เป็นศูนย์กลางและสามารถเชื่อมโยงงานเทศกาล ทั้งไทย พุทธมุสลิม มีเส้นทางการท่องเที่ยวชมเมือง ซึ่งดึงความร่วมมือจากผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการด้านที่พัก อาหาร ร้านค้า หรือตัวอย่างที่น่ารัก เช่น ผู้ประกอบการเจ้าของโรงสีปากพะยูน ที่มีปล่องไฟโบราณขนาดใหญ่ ซึ่งก็ยินดีให้ความร่วมมือเปิดบ้านให้เป็นจุดเรียนรู้

ผลลัพธ์หลัก ๆ ของงานวิจัยที่ต้องได้เพื่อการขยับเรื่องเมืองแห่งการเรียนรู้ของที่นี่ คือ องค์ความรู้ และตัวหลักสูตรการเรียนรู้ที่จะนำไปใช้กับกลุ่มเป้าหมาย และการมีกลไกการเรียนรู้ในระดับพื้นที่ ซึ่งจะเชื่อมออกไปถึงทั้งคนทั่วไป หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และบรรดานักท่องเที่ยวที่มาหลาดใต้ทุน กับปากพะยูน ซึ่งกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งตรงนี้แหละที่เราต้องคิดกันต่อเรื่องมาปากพะยูน และจะพักที่ไหน ไปทานอาหารร้านไหน ต้องกินอะไร การเรียนรู้คุณค่าของชุมชน และทะเลสาบสงขลาจะไปแทรกอยู่ได้อย่างไร

การจัดงานเทศกาลปากพะยูน ที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 3-4 เดือนพ.ค.นี้ งานที่ชุมชนตั้งใจกันมาก ๆ จริงก็เปรียบเหมือนกับงาน Learning City Festival ในมุมหนึ่ง ก็คือความพยายามในการใช้เครื่องมือ เทศกาลชมย่านชมชุมชน ไปเปิดประสบการณ์การเรียนรู้ในพื้นที่จริง ๆ ที่เราทำงานร่วมกับชาวบ้านกันมานาน ให้คนภายนอกได้สัมผัส ซึ่งเรามองว่าปากพะยูนสามารถทำสิ่งนี้ได้ อย่างง่ายๆ คือ ที่นี่จะมีเทศกาลของหร่อยอยู่แล้วจัดเป็นประจำทุกปี รูปแบบวิธีคิดแบบนี้ก็สามารถเติมเข้าไปได้ทันที และมันส่งผลดีต่อพื้นที่ เงินก็ได้เข้าไปสู่ชุมชนจริง ๆ เป็นการกระจายรายได้ และเกิดการเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน

กิจกรรมการเรียนรู้ที่เราช่วยกันสร้างขึ้น จึงเหมือนเป็นการมองเห็น และสัมผัสถึงคุณค่าของวิถีชาวบ้าน วิถีตลาดใต้ถุน มองไปเห็นถึงความเป็นวัฒนธรรมปักษ์ และลึกไปถึงความสัมพันธ์ของคนกับทะเลสาบสงขลา นี่คือหัวใจสำคัญของงานเมืองแห่งการเรียนรู้ทะเลสาบสงขลาที่เรากำลังช่วยกันขับเคลื่อน”

Share :