การ์ตินี อะมีนี
ชาวชุมชนบ้านกลางในเขตเทศบาลตําบลปากพะยูน
“ที่ตรงนี้เป็นบ้านยายที่ดั้งเดิมเป็นชุมชนที่ติดทะเลสาบสงขลา ชุมชนตรงนี้เมื่อก่อนจะเป็นบ้านยกพื้น มีใต้ถุนเกือบทุกบ้าน อาชีพดั้งเดิมทำประมงกันทุกบ้าน หลังออกเรือพื้นที่ชานบ้านจะกลายเป็นที่ตากแพอวน บรรดาแม่บ้านพอว่างงานก็จะนำของมาขายใต้ถุนบ้าน มีขนมโบราณ เมนูพื้นบ้าน ให้คนในพื้นที่ซื้อหาไปทาน
ถ้าพูดถึงการเปลี่ยนแปลงส่วนสำคัญ คือ การที่คนในพื้นที่ส่งลูกหลานไปเรียนที่อื่น พอเรียนจบก็ทํางานมีอาชีพรับราชการบ้าง ไปทํางานสวน ไปรับจ้างข้างนอกบ้าง อาชีพประมงก็เหลือแต่คนเก่า ๆ หลายคนอายุมากก็เลิกไป แต่ละบ้านก็จะมีแต่ผู้สูงอายุ คนอยู่อาศัยเริ่มลดลง บ้านเรือนเริ่มเสื่อมโทรมไป บางบ้านก็ไม่มีคนอยู่แล้ว พอลูกหลานกลับมาและพอมีเงินก็ช่วยกันสร้างบ้านให้คงทนถาวร จากบ้านไม้เป็นบ้านปูน ยกพื้นสูงเหมือนเดิมเพราะน้ำท่วมทุกปี การที่ผู้เฒ่าผู้แก่เสียชีวิตจากเราไป ก็ทำให้พวกเราลูกหลานคิดถึงวันคืนเก่า ๆ คิดถึงสมัยก่อนที่เราเล่นกันที่ใต้ถุน เล่นเสร็จก็ไปซื้อขนมคุณยาย แต่ละหลังทําขนมขาย ภาพแบบนั้นมันหายไปร่วม ๆ 20 กว่าปี
ความคิดถึงวันคืนเก่า ๆ ทำให้คนรุ่นเราในชุมชนเริ่มคุยกันว่า เราจะฟื้นฟูชีวิตชีวา และนำพาสูตรขนมกับของกินโบราณกลับให้คนได้ลองชิมลองทานกันได้อย่างไร ก็เลยมีการลองทำลองสืบค้นหาสูตรขนม จัดกิจกรรมตลาดเกิดเป็น ‘หลาดใต้ถุน’ ชวนกันจัดกิจกรรม Workshop และการเรียนรู้ต่อยอด ทำให้คนเริ่มรู้จัก และมาเที่ยว หลาดใต้ถุนจึงกลายเป็นจุดเช็คอินสําคัญของปากพะยูน
ต้องขอบคุณคณาจารย์จากมหาลัยทักษิณ ที่เข้ามานําเสนอความคิด และสนับสนุนการทำงานของพวกเรา ช่วยเราให้ได้ฟื้นฟูวิถีดั้งเดิม จุดประกายแนวคิดเพื่อชักชวน และดึงดูดให้คนในเข้ามาในพื้นที่ทุก ๆ เดือน
เราก็มีความคิดกันต่อว่าจะทํายังไงให้เด็กรุ่นใหม่ได้มาเรียนรู้ แล้วขนม กับ อาหารโบราณบ้านเราจะได้อยู่คู่กับชุมชนไปนาน ๆ เลยคิดกันว่าน่าจะถ่ายทอดองค์ความรู้ให้เด็กนักเรียน หรือผู้ที่สนใจเข้ามาเรียนรู้การทําขนมโบราณเรื่อยๆ น่าจะเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของเรา
อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เราสามารถทำสิ่งที่ฝันให้เกิดขึ้นได้ คือ ความสามัคคีในชุมชนซึ่งทุกคนมาร่วมกัน แบ่งปันและจัดสรรพื้นที่ของตนเอง ให้เป็นตลาดของชุมชน จริงๆ และพื้นที่ในหลาดใต้ทุน ไม่ใช่พื้นที่สาธารณะ คือ เป็นบ้านของพวกเรา เจ้าของบ้านต้องเสียสละ และร่วมสนับสนุนแบ่งปันพื้นที่ นอกจากนั้นจะต้องช่วยกันรักษาความสะอาดและปรับปรุงให้พื้นที่น่าอยู่น่าใช้ จากความร่วมมือตรงนี้ และจากมหาวิทยาลัยทักษิณ เราสามารถรื้อฟื้นขนมโบราณกลับมาได้ 10 กว่าสูตร และมีกิจกรรมที่หลากหลาย ทำให้ดึงดูดคนมากขึ้น ยิ่งพื้นที่เป็นที่รู้จัก คนเข้ามาเที่ยว มาซื้อขนม มาใช้พื้นที่ คนในชุมชนเองก็ยิ่งแอคทีพกระตือรือร้น และเป็นผลดีกลับไปถึงน้อง ๆ นักเรียนที่มาร่วม Workshop มาเรียนรู้ ก็ได้เรียนรู้ เข้าใจ และทำงานสัมผัสกับชุมชนจริงซึ่งเป็นสิ่งที่เราคาดหวังไว้