ปัตตานีเมืองแห่งการเรียนรู้ จากมุมมอง : อับดุลฆอนี เจะโซะ อาจารย์คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี หัวหน้าโครงการ Learning City Pattani
ครงการ Learning City Pattani เริ่มต้นที่เราเห็นประกาศจากทาง บพท. เกี่ยวกับการสร้างเมืองแห่งการเรียนรู้ และเห็นถึงโอกาสของการทำงานกับพื้นที่ และเทศบาลเมืองปัตตานี จึงเป็นที่มาของการนำปัญหาของเมืองขึ้นมาเป็นโจทย์ เมื่อเรามองเครื่องมือเมืองแห่งการเรียนรู้ และมองสถานการณ์ของการเรียนรู้ในเมือง
เราพบว่าในพื้นที่ของเรามีกลุ่มเด็กเปราะบาง หรือเด็กที่ครอบครัวมีปัญหาเรื่องการทำมาหากินในพื้นที่เทศบาลของเรา โดยกองการศึกษาของเทศบาลก็กำลังช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้อยู่ เราก็มองว่าหากได้ทำโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้ก็น่าจะเป็นประโยชน์ และสร้างโอกาสกับความเปลี่ยนแปลงให้กับน้อง ๆ กลุ่มนี้ด้วย
เราจึงทำวิจัยเรื่องนี้เพื่อหวังว่าจะเป็นแรงช่วยน้องๆ รวมถึงผสานพลังกับเทศบาลและหน่วยงานอื่นๆ ที่มีเป้าหมายเดียวกัน จากข้อมูลปี 2566 พบว่ามีเด็กที่ประสบปัญหาประมาณ 500 คน ตัวเลขนี้ได้จากโรงเรียนเทศบาลทั้ง 5 แห่ง เด็กกลุ่มนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะหลุดจากระบบการศึกษา สาเหตุหลักมาจากสถานะครอบครัว ขาดรายได้ที่เพียงพอ และภาระหนี้สินนอกระบบ ทำให้โอกาส และคุณภาพการศึกษาที่เด็กควรจะได้รับ เป็นไปได้ยาก
และนอกจากนี้ มีน้อง ๆ หลายคนถือเป็นเด็กกลุ่มพิเศษ คือ นอกจากครอบครัวมีรายได้น้อย หัวใจของพวกเขายังเปราะบาง ขาดที่พึ่งที่ปรึกษา ถูกสังคมกดดัน และอยู่ในสภาพที่น่าเป็นห่วงทั้งร่างกายและจิตใจ มีน้อง ๆ กลุ่มนี้ที่ต้องการการสนับสนุนอย่างมาก
เมื่อตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้ เรามองว่าเมืองปัตตานีมีศักยภาพที่จะช่วยสนับสนุนและเติมเต็มศักยภาพของเด็ก ๆ ของเรา ทั้งพัฒนาทักษะของตนเอง และได้รับโอกาสในการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพ รวมถึงทักษะที่หลากหลายที่เด็ก ๆ สนใจ เป็นการเปิดมุมใหม่ ๆ สร้างอนาคตให้ลูกหลานของเรา
วิธีการทำงานของโครงการ Learning City ปัตตานีที่ผมดูแล ใช้วิธีใกล้ชิดกับเด็กๆ พร้อมกับพบหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เคาะประตู Door to Door เพื่อเข้าพบ หารือ ขอคำปรึกษา และแนวทางการทำงานร่วมกัน เรามีการทำ MOU ร่วมกับหลายหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อให้เป้าหมายของการพัฒนาเด็กกลุ่มนี้ กับเป้าหมายการสร้างเมืองแห่งการเรียนรู้ปัตตานี เป็นเรื่องที่ทุกคนร่วมมือกัน
เมื่อได้เครือข่ายและภาคีร่วมทำงานแล้ว เราเริ่มวางโปรแกรมกิจกรรมที่มองว่าเหมาะสม เด็กมีความสนใจและเชื่อมโยงกับเครือข่าย เช่น ร้านอาหารที่เปิดรับเด็กๆ ให้ฝึกงาน ช่วยเชฟทำอาหาร เสิร์ฟ ข้อดีคือ เด็กๆ ได้เรียนรู้จากโลกจริง และช่วยให้ธุรกิจที่สนใจเรื่องสังคมเป็นธุรกิจเพื่อสังคมเต็มตัวมากขึ้น
สิ่งที่ผมคาดหวังไว้ แม้โครงการนี้มีระยะเวลา 1 ปี แต่ในช่วงเวลาที่ผ่านมา การพัฒนาเมืองแห่งการเรียนรู้ปัตตานีได้สร้างประสบการณ์การทำงานร่วมกัน สร้างเครือข่าย และพัฒนาทักษะเด็กๆ หลายคน เรามีโปรแกรมและหลักสูตรที่ทดลองใช้แล้วและต่อยอดได้
ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมคือ เด็กๆ ได้ประสบการณ์จากการเรียนรู้ การทำงานจริง พัฒนาทักษะ มีรายได้ เกิดแรงบันดาลใจและแรงจูงใจ มันช่วยสร้างวิธีคิดเกี่ยวกับอนาคตของตนเอง ทุกคนที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นนักวิจัย หน่วยงาน หรือร้านค้า นี่คือสังคมของการเรียนรู้ที่เราร่วมกันสร้าง เรามองว่าสังคม ของการเรียนรู้แบบนี้จะช่วยต่อยอดเมืองแห่งการเรียนรู้ให้ไปไกลกว่าเดิม ซึ่งเราสามารถเริ่มเห็นผลด้วยกิจกรรม “Fund Run, for U (Charity Run)” เพื่อระดมทุนเพื่อการศึกษาซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 25 พ.ค.นี้ นอกจากนี้ยังมีงานเฉลิมฉลองเมืองแห่งการเรียนรู้ “Learning Festival & Fun Run 2025” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 24-25 พ.ค. นี้
งานดังกล่าวจะรวมเอาการแสดงศักยภาพของน้อง ๆ คนรุ่นใหม่ การพูดถึงไอเดียในการเคลื่อนกิจกรรมการเรียนรู้ และโอกาสในการก้าวเดินหน้าต่อในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เราหวังว่างานนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยเสริมสร้างและสนับสนุนให้เมืองปัตตานีกลายเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ที่เติบโตและพัฒนาได้อย่างยั่งยืนในอนาคต”
ติดตามการขับเคลื่อนปัตตานีเมืองแห่งการเรียนรู้ Facebook : Pattani Learning City – ปัตตานีเมืองแห่งการเรียนรู้